นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์

ประธานกรรมการ

ในปี 2566 อุตสาหกรรมภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อและหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง การปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ประกอบกับการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายอัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) หรือมาตรการผ่อนคลายเงินดาวน์ขั้นต่ำ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท โดยในปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และรายได้จากค่าเช่าและบริการ รวมทั้งสิ้น 8,968 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 8 และมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.39 เท่า (ปี 2565 เท่ากับ 0.41 เท่า)

สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบ เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง โดยในปี 2566 บริษัทเปิดโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 8,589 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2565 สำหรับธุรกิจโรงแรมที่บริษัทเข้าลงทุน มีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น โดยมีผลมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่คลี่คลายลง ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลผ่านโครงการ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านงานพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทยังคงยึดมั่นดำเนินงานตามนโยบาย และแนวปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ที่ครอบคลุมมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาล ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการคัดสรรวัสดุก่อสร้างที่เน้นการประหยัดพลังงาน ลดความร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยในปี 2566 บริษัทได้รับผลการประเมินการสำรวจการกำกับดูแลกิจการตามโครงการ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) ในระดับดีเลิศ (Excellent) ติดต่อกันเป็นปีที่ 8

ในนามของคณะกรรมการบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ใคร่ขอขอบคุณลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ที่ให้การสนับสนุนบริษัท ด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณพนักงานทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างคุณค่าแก่สังคม และเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ต่อไป

(นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์)

ประธานกรรมการ