นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์

ประธานกรรมการ

ในปี 2567 สภาพตลาดในอุตสาหกรรมภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยลบหลายประการ เช่น ภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค หนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ภาวะ Over Supply และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงสถาบันการเงินยังคงมีนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการมุ่งเน้นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยในปี 2567 บริษัทเปิดโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 9,804 ล้านบาท ซึ่งมูลค่ามากกว่าปี 2566 ร้อยละ 14 สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากธุรกิจหลักรวม 8,439 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน จำนวน 2,150 ล้านบาทลดลงร้อยละ 9 และมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.39 เท่า เท่ากับปี 2566

ธุรกิจโรงแรมที่บริษัทเข้าลงทุน มีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นจำนวน 148 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 โดยเป็นผลมาจากการฟื้นตัวตามการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐ ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค ในด้านงานพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท ยังคงให้ความสำคัญและยึดมั่นในการดำเนินงานตามนโยบาย และแนวปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ที่ครอบคลุมมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาล ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการคัดสรรวัสดุก่อสร้างที่เน้นการประหยัดพลังงานจากการใช้พลังงานทดแทน เพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐเรื่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

และบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยในปี 2567 บริษัทได้รับผลการประเมินการสำรวจการกำกับดูแลกิจการตามโครงการ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) ในระดับดีเลิศ (Excellent) ติดต่อกันเป็นปีที่ 9

ในนามของคณะกรรมการบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ใคร่ขอขอบคุณลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า สถาบันการเงิน และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ที่ให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณพนักงานทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างคุณค่าแก่สังคม และเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ต่อไป

(นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์)

ประธานกรรมการ